เคล็ดลับเพื่อการประหยัดพลังงานขั้นสูงสุด
แอตลาส คอปโก้ ขอนำเสนอแผนการดำเนินงานที่จะช่วยให้คุณประหยัดพลังงานได้อย่างสูงสุดและยั่งยืน
“คอมเพรสเซอร์หรือปั๊มลม” ถูกนำมาใช้อย่างแพร่หลายในโรงงานอุตสาหกรรม เนื่องจากคอมเพรสเซอร์หรือปั๊มลม เป็นหัวใจสำคัญสำหรับกระบวนการผลิต แต่คอมเพรสเซอร์หรือปั๊มลมก็เป็นอุปกรณ์ที่ใช้พลังงานไฟฟ้ามากที่สุดในโรงงานเช่นกัน ซึ่งค่าไฟฟ้ากว่า 40% ภายในโรงงานของคุณนั้นเกิดจากระบบคอมเพรสเซอร์หรือปั๊มลม
“คอมเพรสเซอร์หรือปั๊มลม” ถูกนำมาใช้อย่างแพร่หลายในโรงงานอุตสาหกรรม เนื่องจากคอมเพรสเซอร์หรือปั๊มลม เป็นหัวใจสำคัญสำหรับกระบวนการผลิต แต่คอมเพรสเซอร์หรือปั๊มลมก็เป็นอุปกรณ์ที่ใช้พลังงานไฟฟ้ามากที่สุดในโรงงานเช่นกัน ซึ่งค่าไฟฟ้ากว่า 40% ภายในโรงงานของคุณนั้นเกิดจากระบบคอมเพรสเซอร์หรือปั๊มลม
แอตลาส คอปโก้ ขอนำเสนอแผนการดำเนินงานที่จะช่วยให้คุณประหยัดพลังงานได้อย่างสูงสุดและยั่งยืน
ด้วย 3 ขั้นตอน นั่นก็คือ การรวบรวมข้อมูลและวิเคราะห์ข้อมูล (Analyze) การมาปรับใช้ให้เหมาะสม (Optimize) การติดตามและตรวจสอบระบบ (Monitoring) จะช่วยให้คุณลดค่าไฟในโรงงาน พร้อมทั้งเพิ่มประสิทธิภาพสูงสุดให้แก่การผลิตของคุณ
ขั้นตอนที่ 1 : รวบรวมข้อมูลและวิเคราะห์ข้อมูล (Analyze)
การเลือกใช้คอมเพรสเซอร์หรือปั๊มลมเพื่อให้เกิดการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด คุณจะต้องเลือกคอมเพรสเซอร์หรือปั๊มลมที่เหมาะสมกับการใช้งาน โดยพิจารณาถึง ปริมาณลม แรงดันลม และพฤติกรรมในการใช้ลมเป็นหลัก
1.1 รวบรวมข้อมูล
เราสามารถเราสามารถเราสามารถเราสามารถ
เก็บรวบรวมข้อมูลและพฤติกรรมการใช้ลม ของคอมเพรสเซอร์หรือปั๊มลมได้ ด้วยอุปกรณ์ data logger หรือ iiTrak ของ แอตลาส คอปโก้ เป็นเทคโนโลยีที่สามารถประเมินและตรวจสอบศักยภาพของระบบคอมเพรสเซอร์หรือปั๊มลมได้อย่างละเอียด โดย data logger นี้จะทำการวัดและบันทึกค่ากระแสไฟฟ้าในขณะที่คอมเพรสเซอร์หรือปั๊มลมทำงานในระยะเวลาประมาณ 7-14 วัน จากนั้น นำข้อมูลมาทำการวิเคราะห์รูปแบบการใช้ลม ด้วยโปรแกรม AIRchitect ซึ่งสามารถรายงานผลออกมา ดังนี้
พฤติกรรมของการใช้ลมในแต่ละวัน
ปริมาณลมสูงสุดที่มีการใช้งาน (peak load)
อัตราการใช้ลมโดยเฉลี่ย
อัตราส่วนการใช้คอมเพรสเซอร์หรือปั๊มลม (load/unload)
ประเมินค่าไฟปัจจุบันเป็นรายสัปดาห์และรายปี
1.2 วิเคราะห์ข้อมูล
หลังจากการหลังจากการหลังจากการหลังจากการเก็บรวบรวมข้อมูลและพฤติกรรมการใช้ลม ของคอมเพรสเซอร์หรือปั๊มลม จะช่วยให้เราทราบถึงอัตราการใช้ลมที่แท้จริง จึงสามารถแยกการวิเคราะห์ได้ดังนี้
1.2.1 ควบคุมจำนวนคอมเพรสเซอร์หรือปั๊มลม
อีกหนึ่งปัจจัยที่มีความสำคัญ คือ การประเมินจำนวนคอมเพรสเซอร์หรือปั๊มลมที่มีทั้งหมดภายในโรงงานโดยคำนึงถึง
Reliability และ safety factor ที่มี เทียบกับปริมาณการใช้ลมปัจจุบัน
หากมีคอมเพรสเซอร์หรือปั๊มลมจำนวนมากเกินไป ควรพิจารณาถึงจำนวนปริมาณลมที่ใช้อย่างแท้จริงเพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายในส่วนของการบำรุงรักษา
1.2.2 ติดตั้งคอมเพรสเซอร์หรือปั๊มลมที่ใช้เทคโนโลยี Variable Speed Drive (VSD)
หากพบว่ามีความผันผวนในการใช้ลม คอมเพรสเซอร์หรือปั๊มลมที่มีหลังจากการหลังจากการหลังจากการ
เก็บรวบรวมข้อมูลและพฤติกรรมการใช้ลม ของคอมเพรสเซอร์หรือปั๊มลม จะช่วยให้เราทราบถึงอัตราการใช้ลมที่แท้จริง จึงสามารถแยกการวิเคราะห์ได้ดังนี้
1.2.1 ควบคุมจำนวนคอมเพรสเซอร์หรือปั๊มลม
อีกหนึ่งปัจจัยที่มีความสำคัญ คือ การประเมินจำนวนคอมเพรสเซอร์หรือปั๊มลมที่มีทั้งหมดภายในโรงงานโดยคำนึงถึง
Reliability และ safety factor ที่มี เทียบกับปริมาณการใช้ลมปัจจุบัน
หากมีคอมเพรสเซอร์หรือปั๊มลมจำนวนมากเกินไป ควรพิจารณาถึงจำนวนปริมาณลมที่ใช้อย่างแท้จริงเพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายในส่วนของการบำรุงรักษา
1.2.2 ติดตั้งคอมเพรสเซอร์หรือปั๊มลมที่ใช้เทคโนโลยี Variable Speed Drive (VSD)
หากพบว่ามีความผันผวนในการใช้ลม คอมเพรสเซอร์หรือปั๊มลมที่มีหลังจากการ
เก็บรวบรวมข้อมูลและพฤติกรรมการใช้ลม ของคอมเพรสเซอร์หรือปั๊มลม จะช่วยให้เราทราบถึงอัตราการใช้ลมที่แท้จริง จึงสามารถแยกการวิเคราะห์ได้ดังนี้
1.2.1 ควบคุมจำนวนคอมเพรสเซอร์หรือปั๊มลม
อีกหนึ่งปัจจัยที่มีความสำคัญ คือ การประเมินจำนวนคอมเพรสเซอร์หรือปั๊มลมที่มีทั้งหมดภายในโรงงานโดยคำนึงถึง
Reliability และ safety factor ที่มี เทียบกับปริมาณการใช้ลมปัจจุบัน
หากมีคอมเพรสเซอร์หรือปั๊มลมจำนวนมากเกินไป ควรพิจารณาถึงจำนวนปริมาณลมที่ใช้อย่างแท้จริงเพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายในส่วนของการบำรุงรักษา
1.2.2 ติดตั้งคอมเพรสเซอร์หรือปั๊มลมที่ใช้เทคโนโลยี Variable Speed Drive (VSD)
หากพบว่ามีความผันผวนในการใช้ลม คอมเพรสเซอร์หรือปั๊มลมที่มีหลังจากการหลังจากการ
เก็บรวบรวมข้อมูลและพฤติกรรมการใช้ลม ของคอมเพรสเซอร์หรือปั๊มลม จะช่วยให้เราทราบถึงอัตราการใช้ลมที่แท้จริง จึงสามารถแยกการวิเคราะห์ได้ดังนี้
1.2.1 ควบคุมจำนวนคอมเพรสเซอร์หรือปั๊มลม
อีกหนึ่งปัจจัยที่มีความสำคัญ คือ การประเมินจำนวนคอมเพรสเซอร์หรือปั๊มลมที่มีทั้งหมดภายในโรงงานโดยคำนึงถึง
Reliability และ safety factor ที่มี เทียบกับปริมาณการใช้ลมปัจจุบัน
หากมีคอมเพรสเซอร์หรือปั๊มลมจำนวนมากเกินไป ควรพิจารณาถึงจำนวนปริมาณลมที่ใช้อย่างแท้จริงเพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายในส่วนของการบำรุงรักษา
1.2.2 ติดตั้งคอมเพรสเซอร์หรือปั๊มลมที่ใช้เทคโนโลยี Variable Speed Drive (VSD)
หากพบว่ามีความผันผวนในการใช้ลม คอมเพรสเซอร์หรือปั๊มลมที่มีหลังจากการ
เก็บรวบรวมข้อมูลและพฤติกรรมการใช้ลม ของคอมเพรสเซอร์หรือปั๊มลม จะช่วยให้เราทราบถึงอัตราการใช้ลมที่แท้จริง จึงสามารถแยกการวิเคราะห์ได้ดังนี้
1.2.1 ควบคุมจำนวนคอมเพรสเซอร์หรือปั๊มลม
อีกหนึ่งปัจจัยที่มีความสำคัญ คือ การประเมินจำนวนคอมเพรสเซอร์หรือปั๊มลมที่มีทั้งหมดภายในโรงงานโดยคำนึงถึง
Reliability และ safety factor ที่มี เทียบกับปริมาณการใช้ลมปัจจุบัน
หากมีคอมเพรสเซอร์หรือปั๊มลมจำนวนมากเกินไป ควรพิจารณาถึงจำนวนปริมาณลมที่ใช้อย่างแท้จริงเพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายในส่วนของการบำรุงรักษา
1.2.2 ติดตั้งคอมเพรสเซอร์หรือปั๊มลมที่ใช้เทคโนโลยี Variable Speed Drive (VSD)
หากพบว่ามีความผันผวนในการใช้ลม คอมเพรสเซอร์หรือปั๊มลมที่มี
เทคโนโลยีปรับความเร็วรอบมอเตอร์ หรือ Variable Speed Drive (VSD) จะช่วยให้ประหยัดพลังงานสูงสุด รวมทั้งสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของระบบคอมเพรสเซอร์หรือปั๊มลมโดยรวม โดยเราจะขอเล่าถึงรายละเอียดในหัวข้อถัดไป
ขั้นตอนที่ 2 : นำมาปรับใช้ให้เหมาะสม (Optimize)
ทั้งการตั้งค่าปั๊มลม การเลือกใช้ปั๊มลม หรือการใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสมต่อการใช้งานนั้น ช่วยประหยัดค่าไฟได้มากขึ้น 35 – 50% เราจึงขอนำเสนอเทคโนโลยีของ แอตลาส คอปโก้ ที่จะช่วยประหยัดพลังงานให้แก่โรงงานของคุณ
2.1 เทคโนโลยีปรับความเร็วรอบมอเตอร์ หรือ Variable Speed Drive (VSD)
2.1 เทคโนโลยีปรับความเร็วรอบมอเตอร์ หรือ Variable Speed Drive (VSD)
2.1 เทคโนโลยีปรับความเร็วรอบมอเตอร์ หรือ Variable Speed Drive (VSD)
2.1 เทคโนโลยีปรับความเร็วรอบมอเตอร์ หรือ Variable Speed Drive (VSD)
Variable Speed Drive หรือ VSD เหมาะสำหรับความต้องการของการใช้ลมที่ไม่คงที่ในไลน์ผลิตของลูกค้าซึ่ง 2.1 เทคโนโลยีปรับความเร็วรอบมอเตอร์ หรือ Variable Speed Drive (VSD)
2.1 เทคโนโลยีปรับความเร็วรอบมอเตอร์ หรือ Variable Speed Drive (VSD)
2.1 เทคโนโลยีปรับความเร็วรอบมอเตอร์ หรือ Variable Speed Drive (VSD)
Variable Speed Drive หรือ VSD เหมาะสำหรับความต้องการของการใช้ลมที่ไม่คงที่ในไลน์ผลิตของลูกค้าซึ่ง 2.1 เทคโนโลยีปรับความเร็วรอบมอเตอร์ หรือ Variable Speed Drive (VSD)
Variable Speed Drive หรือ VSD เหมาะสำหรับความต้องการของการใช้ลมที่ไม่คงที่ในไลน์ผลิตของลูกค้าซึ่ง 2.1 เทคโนโลยีปรับความเร็วรอบมอเตอร์ หรือ Variable Speed Drive (VSD)
2.1 เทคโนโลยีปรับความเร็วรอบมอเตอร์ หรือ Variable Speed Drive (VSD)
Variable Speed Drive หรือ VSD เหมาะสำหรับความต้องการของการใช้ลมที่ไม่คงที่ในไลน์ผลิตของลูกค้าซึ่ง 2.1 เทคโนโลยีปรับความเร็วรอบมอเตอร์ หรือ Variable Speed Drive (VSD)
Variable Speed Drive หรือ VSD เหมาะสำหรับความต้องการของการใช้ลมที่ไม่คงที่ในไลน์ผลิตของลูกค้าซึ่ง Variable Speed Drive หรือ VSD เป็นเทคโนโลยีที่สามารถควบคุมความเร็วรอบมอเตอร์ให้เหมาะสมกับสภาวะ load ของคอมเพรสเซอร์หรือปั๊มลม พร้อมทั้งปรับแรงดันได้ตามความต้องการเพื่อความเหมาะสมกับการใช้ลม จึงช่วยให้กระบวนการผลิตของคุณได้รับปริมาณลมที่เหมาะสมตามความต้องการ และช่วยประหยัดพลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดย
ประหยัดพลังงานได้โดยเฉลี่ย 35 - 50%
ลดการกระชากไฟฟ้าขณะที่คอมเพรสเซอร์หรือปั๊มลมเริ่มต้นทำงาน
ปรับแรงดันได้ตามความต้องการใช้ลม จึงไม่เกิดการใช้พลังงานไฟฟ้าเกินความจำเป็น
ในขณะที่มีแรงดันในระบบต่ำลง จะช่วยลดการรั่วไหลของลมภายในระบบของคอมเพรสเซอร์หรือปั๊มลมลงได้
2.2 Optimizer : เทคโนโลยีที่ช่วยในการ Control และ Monitoring
2.2 Optimizer : เทคโนโลยีที่ช่วยในการ Control และ Monitoring
2.2 Optimizer : เทคโนโลยีที่ช่วยในการ Control และ Monitoring
2.2 Optimizer : เทคโนโลยีที่ช่วยในการ Control และ Monitoring
Optimizer คือ อุปกรณ์พิเศษที่ออกแบบมาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพด้านการใช้พลังงานให้แก่ระบบคอมเพรสเซอร์หรือปั๊มลม ช่วยให้คุณวิเคราะห์การใช้พลังงานได้อย่างง่ายดาย นอกจากนี้ยังสามารถ
ควบคุมและติดตามตรวจสอบ (Control and Monitoring) สามารถติดตามตรวจสอบระบบคอมเพรสเซอร์หรือปั๊มลมทั้งระบบ
ลด Pressure band เมื่อระบบคอมเพรสเซอร์หรือปั๊มลมมี Pressure band ที่เหมาะสม จะไม่เกิดการสูญเสียพลังงานไฟฟ้าเกินความจำเป็น
ลดค่าไฟในช่วง unload ด้วยระบบอัจฉริยะจะช่วยควบคุมการทำงานของคอมเพรสเซอร์หรือปั๊มลม ให้มีค่า load/unload ที่เหมาะสมต่อปริมาณการใช้ลม จึงช่วยลดการใช้พลังงานไฟฟ้าลงไปได้มาก
ยืดระยะเวลาในการซ่อมบำรุงออกไป เมื่อคอมเพรสเซอร์หรือปั๊มลมของคุณมีการตั้งค่าที่เหมาะสมต่อการใช้งาน จะช่วยลดการสึกหรอของเครื่องจักรได้เป็นอย่างมาก จึงช่วยยืดระยะเวลาในการซ่อมบำรุงให้นานกว่าเดิม
2.3 Energy recovery control unit
พลังงานไฟฟ้ามากกว่า 90% ถูกแปลงกลายเป็นความร้อนจากการผลิตลมอัด หากไม่มีการนำพลังงานกลับมาใช้ใหม่ ความร้อนนี้ก็จะสูญหายไปในชั้นบรรยากาศผ่านระบบระบายความร้อนและการแผ่รังสี
ด้วย
2.3 Energy recovery control unit
พลังงานไฟฟ้ามากกว่า 90% ถูกแปลงกลายเป็นความร้อนจากการผลิตลมอัด หากไม่มีการนำพลังงานกลับมาใช้ใหม่ ความร้อนนี้ก็จะสูญหายไปในชั้นบรรยากาศผ่านระบบระบายความร้อนและการแผ่รังสี
ด้วย
2.3 Energy recovery control unit
พลังงานไฟฟ้ามากกว่า 90% ถูกแปลงกลายเป็นความร้อนจากการผลิตลมอัด หากไม่มีการนำพลังงานกลับมาใช้ใหม่ ความร้อนนี้ก็จะสูญหายไปในชั้นบรรยากาศผ่านระบบระบายความร้อนและการแผ่รังสี
ด้วย
2.3 Energy recovery control unit
พลังงานไฟฟ้ามากกว่า 90% ถูกแปลงกลายเป็นความร้อนจากการผลิตลมอัด หากไม่มีการนำพลังงานกลับมาใช้ใหม่ ความร้อนนี้ก็จะสูญหายไปในชั้นบรรยากาศผ่านระบบระบายความร้อนและการแผ่รังสี
ด้วย
ยูนิตควบคุมการนำพลังงานมาใช้ใหม่ (Energy recovery control unit) ของ แอตลาส คอปโก้ สามารถเปลี่ยนคอมเพรสเซอร์หรือปั๊มลม ของคุณให้เป็นแหล่งพลังงานได้ ด้วยการนำความร้อนกลับมาใช้ใหม่ มีคุณสมบัติที่โดดเด่น คือ
นำพลังงานกลับมาใช้ใหม่ได้สูงสุดถึง 105% ในรูปแบบของน้ำร้อน
ลดการปล่อยก๊าซ CO2 จึงช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมและลดการสิ้นเปลืองพลังงานได้ไปพร้อมๆกัน
มาพร้อมระบบติดตั้งแบบ plug and play โดยสามารถเชื่อมต่อและใช้งานได้ทันที
ต้นทุนการทำงานต่ำ ด้วยตัวแลกเปลี่ยนความร้อนที่เป็นแผ่นสแตนเลส ปั๊มที่ขับเคลื่อนด้วยระบบ2.3 Energy recovery control unit
พลังงานไฟฟ้ามากกว่า 90% ถูกแปลงกลายเป็นความร้อนจากการผลิตลมอัด หากไม่มีการนำพลังงานกลับมาใช้ใหม่ ความร้อนนี้ก็จะสูญหายไปในชั้นบรรยากาศผ่านระบบระบายความร้อนและการแผ่รังสี
ด้วย2.3 Energy recovery control unit
พลังงานไฟฟ้ามากกว่า 90% ถูกแปลงกลายเป็นความร้อนจากการผลิตลมอัด หากไม่มีการนำพลังงานกลับมาใช้ใหม่ ความร้อนนี้ก็จะสูญหายไปในชั้นบรรยากาศผ่านระบบระบายความร้อนและการแผ่รังสี
ด้วย2.3 Energy recovery control unit
พลังงานไฟฟ้ามากกว่า 90% ถูกแปลงกลายเป็นความร้อนจากการผลิตลมอัด หากไม่มีการนำพลังงานกลับมาใช้ใหม่ ความร้อนนี้ก็จะสูญหายไปในชั้นบรรยากาศผ่านระบบระบายความร้อนและการแผ่รังสี
ด้วยยูนิตควบคุมการนำพลังงานมาใช้ใหม่ (Energy recovery control unit) ของ แอตลาส คอปโก้ สามารถเปลี่ยนคอมเพรสเซอร์หรือปั๊มลม ของคุณให้เป็นแหล่งพลังงานได้ ด้วยการนำความร้อนกลับมาใช้ใหม่ มีคุณสมบัติที่โดดเด่น คือ
นำพลังงานกลับมาใช้ใหม่ได้สูงสุดถึง 105% ในรูปแบบของน้ำร้อน
ลดการปล่อยก๊าซ CO2 จึงช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมและลดการสิ้นเปลืองพลังงานได้ไปพร้อมๆกัน
มาพร้อมระบบติดตั้งแบบ plug and play โดยสามารถเชื่อมต่อและใช้งานได้ทันที
ต้นทุนการทำงานต่ำ ด้วยตัวแลกเปลี่ยนความร้อนที่เป็นแผ่นสแตนเลส ปั๊มที่ขับเคลื่อนด้วยระบบ2.3 Energy recovery control unit
พลังงานไฟฟ้ามากกว่า 90% ถูกแปลงกลายเป็นความร้อนจากการผลิตลมอัด หากไม่มีการนำพลังงานกลับมาใช้ใหม่ ความร้อนนี้ก็จะสูญหายไปในชั้นบรรยากาศผ่านระบบระบายความร้อนและการแผ่รังสี
ด้วยยูนิตควบคุมการนำพลังงานมาใช้ใหม่ (Energy recovery control unit) ของ แอตลาส คอปโก้ สามารถเปลี่ยนคอมเพรสเซอร์หรือปั๊มลม ของคุณให้เป็นแหล่งพลังงานได้ ด้วยการนำความร้อนกลับมาใช้ใหม่ มีคุณสมบัติที่โดดเด่น คือ
นำพลังงานกลับมาใช้ใหม่ได้สูงสุดถึง 105% ในรูปแบบของน้ำร้อน
ลดการปล่อยก๊าซ CO2 จึงช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมและลดการสิ้นเปลืองพลังงานได้ไปพร้อมๆกัน
มาพร้อมระบบติดตั้งแบบ plug and play โดยสามารถเชื่อมต่อและใช้งานได้ทันที
ต้นทุนการทำงานต่ำ ด้วยตัวแลกเปลี่ยนความร้อนที่เป็นแผ่นสแตนเลส ปั๊มที่ขับเคลื่อนด้วยระบบ2.3 Energy recovery control unit
พลังงานไฟฟ้ามากกว่า 90% ถูกแปลงกลายเป็นความร้อนจากการผลิตลมอัด หากไม่มีการนำพลังงานกลับมาใช้ใหม่ ความร้อนนี้ก็จะสูญหายไปในชั้นบรรยากาศผ่านระบบระบายความร้อนและการแผ่รังสี
ด้วย2.3 Energy recovery control unit
พลังงานไฟฟ้ามากกว่า 90% ถูกแปลงกลายเป็นความร้อนจากการผลิตลมอัด หากไม่มีการนำพลังงานกลับมาใช้ใหม่ ความร้อนนี้ก็จะสูญหายไปในชั้นบรรยากาศผ่านระบบระบายความร้อนและการแผ่รังสี
ด้วยยูนิตควบคุมการนำพลังงานมาใช้ใหม่ (Energy recovery control unit) ของ แอตลาส คอปโก้ สามารถเปลี่ยนคอมเพรสเซอร์หรือปั๊มลม ของคุณให้เป็นแหล่งพลังงานได้ ด้วยการนำความร้อนกลับมาใช้ใหม่ มีคุณสมบัติที่โดดเด่น คือ
นำพลังงานกลับมาใช้ใหม่ได้สูงสุดถึง 105% ในรูปแบบของน้ำร้อน
ลดการปล่อยก๊าซ CO2 จึงช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมและลดการสิ้นเปลืองพลังงานได้ไปพร้อมๆกัน
มาพร้อมระบบติดตั้งแบบ plug and play โดยสามารถเชื่อมต่อและใช้งานได้ทันที
ต้นทุนการทำงานต่ำ ด้วยตัวแลกเปลี่ยนความร้อนที่เป็นแผ่นสแตนเลส ปั๊มที่ขับเคลื่อนด้วยระบบ2.3 Energy recovery control unit
พลังงานไฟฟ้ามากกว่า 90% ถูกแปลงกลายเป็นความร้อนจากการผลิตลมอัด หากไม่มีการนำพลังงานกลับมาใช้ใหม่ ความร้อนนี้ก็จะสูญหายไปในชั้นบรรยากาศผ่านระบบระบายความร้อนและการแผ่รังสี
ด้วยยูนิตควบคุมการนำพลังงานมาใช้ใหม่ (Energy recovery control unit) ของ แอตลาส คอปโก้ สามารถเปลี่ยนคอมเพรสเซอร์หรือปั๊มลม ของคุณให้เป็นแหล่งพลังงานได้ ด้วยการนำความร้อนกลับมาใช้ใหม่ มีคุณสมบัติที่โดดเด่น คือ
นำพลังงานกลับมาใช้ใหม่ได้สูงสุดถึง 105% ในรูปแบบของน้ำร้อน
ลดการปล่อยก๊าซ CO2 จึงช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมและลดการสิ้นเปลืองพลังงานได้ไปพร้อมๆกัน
มาพร้อมระบบติดตั้งแบบ plug and play โดยสามารถเชื่อมต่อและใช้งานได้ทันที
ต้นทุนการทำงานต่ำ ด้วยตัวแลกเปลี่ยนความร้อนที่เป็นแผ่นสแตนเลส ปั๊มที่ขับเคลื่อนด้วยระบบ Variable Speed Drive หรือ VSD และระบบควบคุมที่ล้ำสมัย ช่วยให้มั่นใจได้ถึงอายุการใช้งานที่ยาวนานและไร้ปัญหา
กำหนดแรงดันของน้ำหล่อเย็นและอุณหภูมิภายในระบบคอมเพรสเซอร์หรือปั๊มลมของคุณได้ตามความเหมาะสม
ขั้นตอนที่ 3 : ติดตามและตรวจสอบระบบ (Monitoring)
หลังจากมีการติดตั้งระบบคอมเพรสเซอร์หรือปั๊มลมที่เหมาะสมต่อการใช้งานแล้ว ควรมีการติดตามและตรวจสอบระบบอยู่เสมอ เพื่อให้รับรู้ถึงสถานะการทำงานของคอมเพรสเซอร์หรือปั๊มลมอยู่ตลอดเวลา
หลังจากมีการติดตั้งระบบคอมเพรสเซอร์หรือปั๊มลมที่เหมาะสมต่อการใช้งานแล้ว ควรมีการติดตามและตรวจสอบระบบอยู่เสมอ เพื่อให้รับรู้ถึงสถานะการทำงานของคอมเพรสเซอร์หรือปั๊มลมอยู่ตลอดเวลา
หลังจากมีการติดตั้งระบบคอมเพรสเซอร์หรือปั๊มลมที่เหมาะสมต่อการใช้งานแล้ว ควรมีการติดตามและตรวจสอบระบบอยู่เสมอ เพื่อให้รับรู้ถึงสถานะการทำงานของคอมเพรสเซอร์หรือปั๊มลมอยู่ตลอดเวลา
หลังจากมีการติดตั้งระบบคอมเพรสเซอร์หรือปั๊มลมที่เหมาะสมต่อการใช้งานแล้ว ควรมีการติดตามและตรวจสอบระบบอยู่เสมอ เพื่อให้รับรู้ถึงสถานะการทำงานของคอมเพรสเซอร์หรือปั๊มลมอยู่ตลอดเวลา
SMARTLINK ของ แอตลาส คอปโก้ จะช่วยติดตามและตรวจสอบสถานะของคอมเพรสเซอร์หรือปั๊มลมได้อย่างละเอียด ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพด้านการใช้พลังงานและช่วยให้คุณได้รับการซ่อมบำรุงตามกำหนดเวลา ด้วยระบบดังต่อไปนี้
SMARTLINK Service ดูบันทึกการซ่อมบำรุงออนไลน์ได้เพียงหนึ่งคลิก พร้อมทั้งตรวจสอบราคาสำหรับชิ้นส่วนและการซ่อมบำรุงเพิ่มเติมได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย
SMARTLINK Uptime Uptime จะส่งอีเมลหรือข้อความหรือเมลเพิ่มเติมถึงคุณเมื่อใดก็ตามที่มีคำเตือนที่สำคัญตั้งแต่ระยะเริ่มต้น เพื่อให้คุณสามารถปฏิบัติงานได้ตามวิธีการที่วางแผนไว้
SMARTLINK Energy Energy จะรายงานตามที่คุณต้องการ เกี่ยวกับประสิทธิภาพของพลังงานในคอมเพรสเซอร์หรือปั๊มลมของคุณ ตามมาตรฐาน ISO 50001
จากแผนพัฒนาทั้ง 3 ขั้นตอนดังกล่าว จะช่วยลดค่าไฟในโรงงานของคุณได้มากถึง 50% จึงช่วยให้คุณประหยัดค่าใช้จ่าย มีผลกำไรมากขึ้น และมีระยะเวลาคืนทุนที่คุ้มค่ามากขึ้น
แอตลาส คอปโก้ ผู้นำด้านนวัตกรรมเพื่อการประหยัดพลังงานอย่างยั่งยืน พร้อมให้คำปรึกษาในด้านการประหยัดพลังงานแก่คุณ
เคล็ดลับเพื่อการประหยัดพลังงานขั้นสูงสุด