โรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมจะใช้ทั้ง กังหันก๊าซ และ กังหันไอน้ำ ในการเปลี่ยนพลังงานความร้อนและพลังงานก๊าซธรรมชาติให้เป็นไฟฟ้า โดยก๊าซธรรมชาติจะประกอบด้วยก๊าซมีเทนเป็นหลัก (75-95%)
โรงไฟฟ้าประเภทนี้มีประสิทธิภาพสูงกว่าถึง 56% และผลิตก๊าซ CO2 น้อยกว่าโรงไฟฟ้าพลังความร้อนที่ใช้การสันดาปของก๊าซแบบทั่วไป นั่นเป็นเพราะว่าสามารถนำพลังงานที่เหลือจากก๊าซมาใช้ในรอบการทำงานเพิ่มเติม และใช้น้ำหล่อเย็นน้อยกว่าโรงไฟฟ้าพลังความร้อนประเภทอื่นถึง 35%
หลังจากที่พูดถึงหลักการพื้นฐานของโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมแล้ว เราจะลงรายละเอียดที่ลึกยิ่งขึ้นในส่วนที่เหลือของบทความนี้ อ่านต่อไปเพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องต่อไปนี้:
● โรงไฟฟ้ากังหันก๊าซร่วม
● การใช้เครื่องผลิตก๊าซไนโตรเจนในโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วม
● ก๊าซไนโตรเจนที่เหมาะสมสำหรับโรงไฟฟ้ากังหันก๊าซร่วม (CCGT)
โรงไฟฟ้ากังหันก๊าซร่วม
โรงไฟฟ้าพลังงานร่วมที่พบได้บ่อยที่สุดก็คือโรงไฟฟ้าเทอร์โมไดนามิกที่กล่าวถึงด้านบน มีชื่อเรียกอีกชื่อว่าโรงไฟฟ้ากังหันก๊าซร่วม (CCGT) และใช้ก๊าซเป็นเชื้อเพลิง โดยมีแนวคิดโดยรวมคือการนำไอเสียจากเครื่องยนต์หนึ่งมาใช้กับเครื่องยนต์ที่สอง ซึ่งเป็นไปได้ด้วยเครื่องแลกเปลี่ยนความร้อน
ขณะที่โรงไฟฟ้า CCGT ถูกนำมาใช้เพื่อตอบสนองความต้องการด้านพลังงานมากยิ่งขึ้น ทำให้ต้องมีการเปิดและปิดเครื่องบ่อยครั้งยิ่งขึ้น ทำให้โรงไฟฟ้าประเภทนี้ต้องใช้ก๊าซไนโตรเจนมากยิ่งขึ้น นั่นเป็นเพราะก๊าซไนโตรเจนนั้นจำเป็นสำหรับลดการสันดาปให้กับระบบสันดาป การบำรุงรักษาขณะออฟโหลด และอื่นๆ
การใช้เครื่องผลิตก๊าซไนโตรเจนในโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วม
กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ หน้าที่หลักของก๊าซไนโตรเจนในโรงไฟฟ้า CCGT ก็คือ ลดการสันดาปให้กับระบบสันดาป นั่นเป็นเพราะอากาศและก๊าซในวงแหวนการสันดาปนั้นเป็นความเสี่ยงต่อการระเบิด ดังนั้น การใช้ก๊าซไนโตรเจนเพื่อลดความเข้มข้นของก๊าซออกซิเจนจึงเป็นสิ่งสำคัญ จึงได้นำก๊าซไนโตรเจนแรงดันสูง (ประมาณ 50 บาร์) มาใช้เพื่อวัตถุประสงค์นี้
เพื่อให้ได้แรงดันระดับนี้ คุณต้องใช้ไนโตรเจนบูสเตอร์ ถังเก็บ และตัวควบคุม อุปกรณ์เหล่านี้จะช่วยให้คุณสามารถจัดเก็บและใช้งานก๊าซไนโตรเจนแรงดันสูงได้ในระดับแรงดันที่ต้องการ ทำให้สามารถสร้างความเฉื่อยในระบบสันดาปได้อย่างมีประสิทธิภาพที่ความเร็วสูงได้
พื้นที่ที่มีความสำคัญเป็นอันดับที่สองที่มีการใช้ก๊าซไนโตรเจนนั้นคือภายในหม้อต้มการนำไอน้ำกลับมาใช้ ในช่วงที่โรงไฟฟ้าไม่ทำงาน จำเป็นต้องใช้ก๊าซไนโตรเจนแรงดันต่ำเพื่อสร้างสภาวะเฉื่อยให้กับหม้อต้ม ซึ่งจะช่วยป้องกันการกัดกร่อนของถังพักของไหลแรงดันสูง และช่วยให้อยู่ในสภาพดี ซึ่งเรียกว่า การบำรุงรักษาขณะออฟโหลด
ก๊าซไนโตรเจนที่เหมาะสมสำหรับโรงไฟฟ้า CCGT
การไหลของก๊าซไนโตรเจนที่จำเป็นนั้นขึ้นกับขนาดและอัตราการรั่วไหลของหม้อต้ม รวมไปถึงการใช้งาน เพื่อสร้างสภาวะเฉื่อยให้กับระบบสันดาปนั้นจำเป็นต้องใช้แรงดัน 50 บาร์ และต้องใช้ก๊าซไนโตรเจน (N2) แรงดันต่ำสำหรับหม้อต้มการนำไอน้ำกลับมาใช้ อย่างที่คุณเห็น เป็นเรื่องจำเป็นที่ต้องมีระบบที่รองรับแรงดันหลายระดับ เราสามารถออกแบบระบบที่มีประสิทธิภาพเพื่อตอบสนองความต้องการดังกล่าวนี้
นอกจากนั้น คุณยังควรให้ความสำคัญกับความบริสุทธิ์ของก๊าซไนโตรเจน ซึ่งกำหนดจากคุณสมบัติการติดไฟของเชื้อเพลิง ซึ่งจะเป็นก๊าซมีเทนในกรณีของก๊าซธรรมชาติ อย่างที่กล่าวถึงมาแล้ว
ก๊าซมีเทนนั้นมีความเข้มข้นของออกซิเจน (MOC) ขั้นต่ำ 8.6% ใน MOC ที่ต่ำกว่านี้จะไม่เกิดส่วนผสมที่ติดไฟได้ ตามปกติแล้วจะพิจารณาให้มีปัจจัยความปลอดภัยขั้นต่ำในแง่ความเข้มข้นของออกซิเจนที่อนุญาตที่ MOC/2 ซึ่งจะทำให้มีความบริสุทธิ์ของก๊าซไนโตรเจนที่ 93% ซึ่งในโรงไฟฟ้า CCGT นั้นมักจะใช้ความบริสุทธิ์ของก๊าซไนโตรเจนที่ 97%
เครื่องผลิตก๊าซไนโตรเจนภายในโรงงานที่มีบูสเตอร์และอุปกรณ์การจัดเก็บนั้นจะสามารถให้ทั้งก๊าซไนโตรเจนความบริสุทธิ์สูงและระดับแรงดันที่เพียงพอ อุปกรณ์ชิ้นนี้จะช่วยให้คุณประหยัดเงินในด้านการขนส่งและสามารถผลิตก๊าซไนโตรเจน (N2) ได้ทุกเมื่อที่ต้องการ ติดต่อเราวันนี้เพื่อรับทราบข้อมูลเพิ่มเติม ทีมงานของเรายินดีให้ความช่วยเหลือคุณ