Atlas Copco เปิดตัวปั๊มสุญญากาศวงแหวนน้ำที่มีตัวปรับความเร็วรอบมอเตอร์ซึ่งมาพร้อมนวัตกรรมใหม่ที่จะพลิกโฉมอุตสาหกรรม

การออกแบบตามการยศาสตร์ของ LRP 700-1000 VSD⁺ พร้อมด้วย HMI ชั้นนำของตลาดทำให้ผู้ปฏิบัติงานสามารถใช้งานอินเตอร์เฟซได้อย่างมีประสิทธิภาพและง่ายดายเมื่อทำการควบคุมปั๊มสุญญากาศ นอกจากนี้จุดทางเข้า ทางออก และสายไฟหลักอยู่ที่ด้านบนของปั๊มเพื่อให้ติดตั้งได้ง่าย คุณสมบัตินี้ยังทำให้ LRP VSD⁺ ของ Atlas Copco เป็นผลิตภัณฑ์แบบ Plug & Play ที่ไม่ยุ่งยาก

“LRP VSD⁺ ไม่เพียงแต่ช่วยให้ลูกค้าของเราประหยัดพลังงานและน้ำ แต่ยังประหยัดพื้นที่อีกด้วย การออกแบบที่กะทัดรัดและใช้พื้นที่ติดตั้งน้อยช่วยให้ผู้ใช้ประหยัดพื้นที่ได้โดยไม่กระทบต่อประสิทธิภาพของสุญญากาศ" Alistair Darroch ผู้จัดการผลิตภัณฑ์ แผนกเทคโนโลยีสุญญากาศวงแหวนน้ำอธิบาย เช่นเดียวกันกับฟังก์ชันการทำงาน: ปั๊มนี้ประกอบด้วยส่วนประกอบที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพจำนวนมาก ซึ่งโดยปกติจะเป็นอุปกรณ์เสริมที่มักต้องใช้พื้นที่เพิ่มขึ้นสำหรับระบบท่อและการติดตั้ง ด้วย LRP 700-1000 VSD⁺ ส่วนประกอบเหล่านี้ได้ถูกรวมเข้ากับส่วนประกอบของปั๊มเพื่อให้ได้ประสิทธิภาพ สมรรถนะ และการประหยัดพื้นที่สูงสุด

โครงครอบป้องกันเสียงช่วยลดมลพิษทางเสียงในสภาพแวดล้อมการทำงานปัจจุบันได้อย่างมาก ด้วยเสียงรบกวนจากการทำงานในช่วง 65 dB(a) ทำให้ LRP VSD⁺ เป็นปั๊มวงแหวนน้ำที่เงียบสนิท นอกเหนือจากการลดเสียงรบกวนแล้ว โครงครอบและตู้ไฟที่แข็งแรงยังช่วยให้มั่นใจได้ว่าปั๊มและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ภายในได้รับการป้องกันจากฝุ่นและน้ำอย่างมีประสิทธิภาพ คุณสมบัตินี้ทำให้ซีรี่ส์ LRP 700-1000 VSD⁺ เหมาะสำหรับการใช้งานในสภาวะที่รุนแรงที่สุดในเชิงอุตสาหกรรม เนื่องจากช่วยยืดอายุการใช้งานของส่วนประกอบอิเล็กทรอนิกส์รวมถึงลดความถี่ในการซ่อมบำรุงให้น้อยลง

เมื่อพูดถึงการออกแบบทางวิศวกรรมของซีรี่ส์ LRP VSD⁺ Alistair Darroch ให้ความเห็นว่า “ปั๊มสุญญากาศ LRP VSD⁺ คือเทคโนโลยีวงแหวนน้ำที่ก้าวล้ำอย่างแท้จริงดังที่เราทราบในปัจจุบัน ไม่มีปั๊มสุญญากาศวงแหวนน้ำอื่นใดที่ให้ประสิทธิภาพและความประหยัดในระดับนี้ ในขณะที่ยังคงรักษาคุณภาพการผลิตและขอบเขตการจ่ายมาตรฐานไว้ในระดับสูง เราได้ใช้ความรู้ทางวิศวกรรมที่มีกว่า 150 ปีและประยุกต์ใช้แนวทางนวัตกรรมของ Atlas Copco เพื่อสร้างสิ่งที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวอย่างแท้จริง ด้วยการผสมผสานข้อดีดั้งเดิมและตามวัตถุประสงค์ของ LRP เข้ากับเทคโนโลยีตัวปรับความเร็วรอบมอเตอร์ของ Atlas Copco เราจึงนำเสนอบางสิ่งที่ตลาดยังไม่เคยมีมาก่อน”

เทคโนโลยีตัวปรับความเร็วรอบมอเตอร์ที่ผนวกรวมไว้ใน LRP VSD⁺ มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวเป็นพิเศษ ระบบ VSD แบบคู่จะทำงานประสานกันอย่างกลมกลืนภายในปั๊ม จึงให้ประสิทธิภาพสุญญากาศสูงสุดเสมอ VSD หลักจะรักษาระดับสุญญากาศที่ต้องการได้อย่างแม่นยำโดยการควบคุมความเร็วในการทำงานของปั๊ม จึงให้ประสิทธิภาพของปั๊มที่ตรงกับความต้องการในการผลิตและประหยัดพลังงาน VSD ตัวที่สองจะควบคุมปั๊มหมุนเวียนน้ำให้สอดคล้องกับสภาวะการทำงานที่เกิดขึ้น จึงช่วยปรับการไหลของน้ำภายในส่วนประกอบของปั๊มให้เหมาะสมและให้ประสิทธิภาพและเสถียรภาพสูงสุดในทุกระดับสุญญากาศและความเร็วในการทำงาน“ระบบอัจฉริยะเป็นคุณสมบัติหลักของ LRP VSD⁺” Alistair Darroch กล่าวต่อ “คุณสมบัติที่ได้รับการจดสิทธิบัตรและอัลกอริทึมที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของเราทำให้การทำงานของปั๊มน้ำมีความสมดุลด้วยความเร็วของมอเตอร์หลัก ซึ่งรับประกันได้ว่าปั๊มจะให้ประสิทธิภาพสูงสุดเสมอ ในขณะที่ยังคงรักษาประสิทธิภาพการใช้พลังงานได้สูงสุด”

นอกเหนือจากระบบอัจฉริยะของปั๊มแล้ว ยังมีนวัตกรรมอีกหลายอย่างที่ทำให้ LRP VSD⁺ สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้า รวมทั้งความต้องการของกระบวนการและสถานการณ์ด้านอุตสาหกรรมในปัจจุบันได้อย่างเฉพาะเจาะจง การป้องกันการอุดตันอัตโนมัติ (ASP) และการป้องกันการเกิดโพรงอัตโนมัติ (ACP) ช่วยป้องกันปั๊มและกระบวนการของลูกค้าในลักษณะเดียวกัน การตรวจสอบอัจฉริยะและความสามารถในการควบคุมระยะไกลเป็นอีกคุณสมบัติสำคัญที่ทำให้ซีรี่ส์ LRP VSD⁺ แตกต่างอย่างแท้จริง

ด้วยตัวควบคุม MkV Elektronikon® ของ Atlas Copco ที่ติดตั้งเป็นมาตรฐาน ทำให้ LRP VSD⁺ มีระบบการจัดการโรงงานที่ครอบคลุมในตัว ข้อมูลสำคัญ เช่น สถานะของปั๊ม สภาวะการทำงาน การแจ้งเตือน และข้อมูลการบำรุงรักษา จะพร้อมใช้งานอยู่เสมอ ปั๊มต่างๆ สามารถตรวจสอบ ควบคุม และปรับแต่งได้พร้อมกัน ซึ่งทำให้ลูกค้ามีการผลิตที่มีประสิทธิภาพเหมาะสมที่สุดอยู่เสมอ LRP VSD⁺ ให้การตรวจสอบ การควบคุม และการเชื่อมต่อที่พลิกโฉมธุรกิจ เมื่อใช้ร่วมกับ SMARTLINK ของ Atlas Copco

ด้วยคุณสมบัติต่างๆ ที่ช่วยให้มั่นใจได้ถึงประสิทธิภาพสูงสุด เวลาการทำงานของระบบสุญญากาศสูงสุด และความทนทานของปั๊ม ซีรี่ส์ LRP VSD⁺ ของ Atlas Copco ได้รับการออกแบบมาเพื่อการใช้งานที่หลากหลายในสภาวะที่สกปรก เปียกชื้น หรือรุนแรง ซึ่งรวมถึงการกรอง การแปรรูปอาหาร การลำเลียง ePS การทำแห้ง การแยกแก๊ส และการปรับเทียบพลาสติก และการหลอมยาง เป็นต้น