oil-water separation จำเป็นหรือไม่ในระบบอัดอากาศ?

ในทุกโรงงานผลิตมักจะมีการปล่อยมลพิษหรือของเสียลงสู่สิ่งแวดล้อมธรรมชาติ ทำให้ส่งผลกระทบต่างๆ ตามมา รัฐบาลจึงออกกฎหมายให้โรงงานผลิตมีความรับผิดชอบต่อสังคม โดยการบำบัดของเสียก่อนปล่อยลงสู่สิ่งแวดล้อม ในระบบอัดอากาศเองก็มีของเสียที่คอนเดนเสดออกมานั่นก็คือน้ำ ในระบบอัดอากาศแบบหล่อลื่นด้วยน้ำมันก็อาจจะมีน้ำมันปนเปื้อนมากับน้ำที่จำเป็นต้องปล่อยทิ้งได้ ผู้ผลิตจึงต้องใช้ในทุกโรงงานผลิตมักจะมีการปล่อยมลพิษหรือของเสียลงสู่สิ่งแวดล้อมธรรมชาติ ทำให้ส่งผลกระทบต่างๆ ตามมา รัฐบาลจึงออกกฎหมายให้โรงงานผลิตมีความรับผิดชอบต่อสังคม โดยการบำบัดของเสียก่อนปล่อยลงสู่สิ่งแวดล้อม ในระบบอัดอากาศเองก็มีของเสียที่คอนเดนเสดออกมานั่นก็คือน้ำ ในระบบอัดอากาศแบบหล่อลื่นด้วยน้ำมันก็อาจจะมีน้ำมันปนเปื้อนมากับน้ำที่จำเป็นต้องปล่อยทิ้งได้ ผู้ผลิตจึงต้องใช้ในทุกโรงงานผลิตมักจะมีการปล่อยมลพิษหรือของเสียลงสู่สิ่งแวดล้อมธรรมชาติ ทำให้ส่งผลกระทบต่างๆ ตามมา รัฐบาลจึงออกกฎหมายให้โรงงานผลิตมีความรับผิดชอบต่อสังคม โดยการบำบัดของเสียก่อนปล่อยลงสู่สิ่งแวดล้อม ในระบบอัดอากาศเองก็มีของเสียที่คอนเดนเสดออกมานั่นก็คือน้ำ ในระบบอัดอากาศแบบหล่อลื่นด้วยน้ำมันก็อาจจะมีน้ำมันปนเปื้อนมากับน้ำที่จำเป็นต้องปล่อยทิ้งได้ ผู้ผลิตจึงต้องใช้ในทุกโรงงานผลิตมักจะมีการปล่อยมลพิษหรือของเสียลงสู่สิ่งแวดล้อมธรรมชาติ ทำให้ส่งผลกระทบต่างๆ ตามมา รัฐบาลจึงออกกฎหมายให้โรงงานผลิตมีความรับผิดชอบต่อสังคม โดยการบำบัดของเสียก่อนปล่อยลงสู่สิ่งแวดล้อม ในระบบอัดอากาศเองก็มีของเสียที่คอนเดนเสดออกมานั่นก็คือน้ำ ในระบบอัดอากาศแบบหล่อลื่นด้วยน้ำมันก็อาจจะมีน้ำมันปนเปื้อนมากับน้ำที่จำเป็นต้องปล่อยทิ้งได้ ผู้ผลิตจึงต้องใช้ เครื่องแยกน้ำหรือน้ำมัน (Oil-water separators) เพิ่มมาในกระบวนการเพื่อให้เป็นไปตามข้อบังคับตามกฎหมาย ในทุกโรงงานผลิตมักจะมีการปล่อยมลพิษหรือของเสียลงสู่สิ่งแวดล้อมธรรมชาติ ทำให้ส่งผลกระทบต่างๆ ตามมา รัฐบาลจึงออกกฎหมายให้โรงงานผลิตมีความรับผิดชอบต่อสังคม โดยการบำบัดของเสียก่อนปล่อยลงสู่สิ่งแวดล้อม ในระบบอัดอากาศเองก็มีของเสียที่คอนเดนเสดออกมานั่นก็คือน้ำ ในระบบอัดอากาศแบบหล่อลื่นด้วยน้ำมันก็อาจจะมีน้ำมันปนเปื้อนมากับน้ำที่จำเป็นต้องปล่อยทิ้งได้ ผู้ผลิตจึงต้องใช้ในทุกโรงงานผลิตมักจะมีการปล่อยมลพิษหรือของเสียลงสู่สิ่งแวดล้อมธรรมชาติ ทำให้ส่งผลกระทบต่างๆ ตามมา รัฐบาลจึงออกกฎหมายให้โรงงานผลิตมีความรับผิดชอบต่อสังคม โดยการบำบัดของเสียก่อนปล่อยลงสู่สิ่งแวดล้อม ในระบบอัดอากาศเองก็มีของเสียที่คอนเดนเสดออกมานั่นก็คือน้ำ ในระบบอัดอากาศแบบหล่อลื่นด้วยน้ำมันก็อาจจะมีน้ำมันปนเปื้อนมากับน้ำที่จำเป็นต้องปล่อยทิ้งได้ ผู้ผลิตจึงต้องใช้ในทุกโรงงานผลิตมักจะมีการปล่อยมลพิษหรือของเสียลงสู่สิ่งแวดล้อมธรรมชาติ ทำให้ส่งผลกระทบต่างๆ ตามมา รัฐบาลจึงออกกฎหมายให้โรงงานผลิตมีความรับผิดชอบต่อสังคม โดยการบำบัดของเสียก่อนปล่อยลงสู่สิ่งแวดล้อม ในระบบอัดอากาศเองก็มีของเสียที่คอนเดนเสดออกมานั่นก็คือน้ำ ในระบบอัดอากาศแบบหล่อลื่นด้วยน้ำมันก็อาจจะมีน้ำมันปนเปื้อนมากับน้ำที่จำเป็นต้องปล่อยทิ้งได้ ผู้ผลิตจึงต้องใช้ เครื่องแยกน้ำหรือน้ำมัน (Oil-water separators) เพิ่มมาในกระบวนการเพื่อให้เป็นไปตามข้อบังคับตามกฎหมาย ในทุกโรงงานผลิตมักจะมีการปล่อยมลพิษหรือของเสียลงสู่สิ่งแวดล้อมธรรมชาติ ทำให้ส่งผลกระทบต่างๆ ตามมา รัฐบาลจึงออกกฎหมายให้โรงงานผลิตมีความรับผิดชอบต่อสังคม โดยการบำบัดของเสียก่อนปล่อยลงสู่สิ่งแวดล้อม ในระบบอัดอากาศเองก็มีของเสียที่คอนเดนเสดออกมานั่นก็คือน้ำ ในระบบอัดอากาศแบบหล่อลื่นด้วยน้ำมันก็อาจจะมีน้ำมันปนเปื้อนมากับน้ำที่จำเป็นต้องปล่อยทิ้งได้ ผู้ผลิตจึงต้องใช้ เครื่องแยกน้ำหรือน้ำมัน (Oil-water separators) เพิ่มมาในกระบวนการเพื่อให้เป็นไปตามข้อบังคับตามกฎหมาย ในทุกโรงงานผลิตมักจะมีการปล่อยมลพิษหรือของเสียลงสู่สิ่งแวดล้อมธรรมชาติ ทำให้ส่งผลกระทบต่างๆ ตามมา รัฐบาลจึงออกกฎหมายให้โรงงานผลิตมีความรับผิดชอบต่อสังคม โดยการบำบัดของเสียก่อนปล่อยลงสู่สิ่งแวดล้อม ในระบบอัดอากาศเองก็มีของเสียที่คอนเดนเสดออกมานั่นก็คือน้ำ ในระบบอัดอากาศแบบหล่อลื่นด้วยน้ำมันก็อาจจะมีน้ำมันปนเปื้อนมากับน้ำที่จำเป็นต้องปล่อยทิ้งได้ ผู้ผลิตจึงต้องใช้ในทุกโรงงานผลิตมักจะมีการปล่อยมลพิษหรือของเสียลงสู่สิ่งแวดล้อมธรรมชาติ ทำให้ส่งผลกระทบต่างๆ ตามมา รัฐบาลจึงออกกฎหมายให้โรงงานผลิตมีความรับผิดชอบต่อสังคม โดยการบำบัดของเสียก่อนปล่อยลงสู่สิ่งแวดล้อม ในระบบอัดอากาศเองก็มีของเสียที่คอนเดนเสดออกมานั่นก็คือน้ำ ในระบบอัดอากาศแบบหล่อลื่นด้วยน้ำมันก็อาจจะมีน้ำมันปนเปื้อนมากับน้ำที่จำเป็นต้องปล่อยทิ้งได้ ผู้ผลิตจึงต้องใช้ เครื่องแยกน้ำหรือน้ำมัน (Oil-water separators) เพิ่มมาในกระบวนการเพื่อให้เป็นไปตามข้อบังคับตามกฎหมาย ในทุกโรงงานผลิตมักจะมีการปล่อยมลพิษหรือของเสียลงสู่สิ่งแวดล้อมธรรมชาติ ทำให้ส่งผลกระทบต่างๆ ตามมา รัฐบาลจึงออกกฎหมายให้โรงงานผลิตมีความรับผิดชอบต่อสังคม โดยการบำบัดของเสียก่อนปล่อยลงสู่สิ่งแวดล้อม ในระบบอัดอากาศเองก็มีของเสียที่คอนเดนเสดออกมานั่นก็คือน้ำ ในระบบอัดอากาศแบบหล่อลื่นด้วยน้ำมันก็อาจจะมีน้ำมันปนเปื้อนมากับน้ำที่จำเป็นต้องปล่อยทิ้งได้ ผู้ผลิตจึงต้องใช้ เครื่องแยกน้ำหรือน้ำมัน (Oil-water separators) เพิ่มมาในกระบวนการเพื่อให้เป็นไปตามข้อบังคับตามกฎหมาย เครื่องแยกน้ำหรือน้ำมัน (Oil-water separators) จึงมีบทบาทสำคัญในระบบอัดอากาศ เนื่องจากสามารถแก้ไขปัญหาสิ่งปนเปื้อนในน้ำคอนเดนเสดจากระบบอัดอากาศได้ ผ่านตัวกรองจำนวนหลายชั้นและสารกรองแบบพิเศษ จึงสามารถขจัดน้ำมันที่ปนเปื้อนมาในน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย

คุณรู้จักน้ำบาดาลไหม? น้ำบาดาลคือน้ำที่สูบจากใต้ดินลึกกว่า 10 เมตร ดังนั้นการปล่อยน้ำเสียที่มีสารปนเปื้อนอันตรายลงสู่แหล่งน้ำธรรมชาติ อาจทำให้มีสารเคมีแทรกซึมลงไปในดินได้ ถือเป็นการทำลายสิ่งแวดล้อม คุณลองสังเกตข่าวรอบตัวดูสิ มักจะมีข่าวน้ำมันรั่วไหลอยู่บ่อยๆ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อพืชและสัตว์ที่อาศัยอยู่บริเวณนั้นได้ การที่มีน้ำมันปนเปื้อนในน้ำเพียงเล็กน้อยก็อาจทำให้น้ำนั้นสกปรกและเป็นมลภาวะ เช่น น้ำมันเพียงหนึ่งหน่วยสามารถปนเปื้อนน้ำได้มากถึงหนึ่งล้านหน่วย น้ำมันที่ปนเปื้อนอยู่ในแหล่งน้ำ นอกจากจะเป็นอันตรายต่อพืชและสัตว์แล้ว ยังส่งผลกระทบต่อดิน แม่น้ำ และทะเลสาบของเรา เมื่อปล่อยให้สะสมเป็นระยะเวลานาน ก็อาจจะต้องสูญเสียเงินจำนวนมากโดยใช่เหตุในการทำความสะอาด

ถึงแม้จะมีกฎหมายบังคับว่าผู้ใช้รถทุกคนต้องคาดเข็มขัดนิรภัยขณะเดินทางก็ตาม แต่ก็ยังมีผู้ใช้รถบางคนที่ไม่ได้ปฏิบัติตาม นั่นถือเป็นความรับผิดชอบส่วนบุคคล เพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้รถเอง ในโรงงานอุตสาหกรรมก็เช่นกัน บางธุรกิจก็ไม่รับผิดชอบต่อสังคม ปล่อยมลพิษสู่สิ่งแวดล้อม ยิ่งไปกว่านั้นกฎหมายนั้นได้กำหนดให้การปล่อยน้ำมันจากโรงงานนั้นจะต้องไม่เกิน 10 PPM หากไม่ติดตั้ง เครื่องดักแยกน้ำมันออกจากลมในระบบ เพื่อแยกน้ำมันออกจากน้ำ ค่าน้ำมันที่ปล่อยออกมาก็อาจเกินตามที่กฏหมายกำหนดและส่งผลเสียต่อสภาพแวดล้อมได้ นั่นจึงเป็นเหตุผลที่สองว่าทำไมต้องใช้ถึงแม้จะมีกฎหมายบังคับว่าผู้ใช้รถทุกคนต้องคาดเข็มขัดนิรภัยขณะเดินทางก็ตาม แต่ก็ยังมีผู้ใช้รถบางคนที่ไม่ได้ปฏิบัติตาม นั่นถือเป็นความรับผิดชอบส่วนบุคคล เพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้รถเอง ในโรงงานอุตสาหกรรมก็เช่นกัน บางธุรกิจก็ไม่รับผิดชอบต่อสังคม ปล่อยมลพิษสู่สิ่งแวดล้อม ยิ่งไปกว่านั้นกฎหมายนั้นได้กำหนดให้การปล่อยน้ำมันจากโรงงานนั้นจะต้องไม่เกิน 10 PPM หากไม่ติดตั้ง เครื่องดักแยกน้ำมันออกจากลมในระบบ เพื่อแยกน้ำมันออกจากน้ำ ค่าน้ำมันที่ปล่อยออกมาก็อาจเกินตามที่กฏหมายกำหนดและส่งผลเสียต่อสภาพแวดล้อมได้ นั่นจึงเป็นเหตุผลที่สองว่าทำไมต้องใช้ถึงแม้จะมีกฎหมายบังคับว่าผู้ใช้รถทุกคนต้องคาดเข็มขัดนิรภัยขณะเดินทางก็ตาม แต่ก็ยังมีผู้ใช้รถบางคนที่ไม่ได้ปฏิบัติตาม นั่นถือเป็นความรับผิดชอบส่วนบุคคล เพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้รถเอง ในโรงงานอุตสาหกรรมก็เช่นกัน บางธุรกิจก็ไม่รับผิดชอบต่อสังคม ปล่อยมลพิษสู่สิ่งแวดล้อม ยิ่งไปกว่านั้นกฎหมายนั้นได้กำหนดให้การปล่อยน้ำมันจากโรงงานนั้นจะต้องไม่เกิน 10 PPM หากไม่ติดตั้ง เครื่องดักแยกน้ำมันออกจากลมในระบบ เพื่อแยกน้ำมันออกจากน้ำ ค่าน้ำมันที่ปล่อยออกมาก็อาจเกินตามที่กฏหมายกำหนดและส่งผลเสียต่อสภาพแวดล้อมได้ นั่นจึงเป็นเหตุผลที่สองว่าทำไมต้องใช้ถึงแม้จะมีกฎหมายบังคับว่าผู้ใช้รถทุกคนต้องคาดเข็มขัดนิรภัยขณะเดินทางก็ตาม แต่ก็ยังมีผู้ใช้รถบางคนที่ไม่ได้ปฏิบัติตาม นั่นถือเป็นความรับผิดชอบส่วนบุคคล เพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้รถเอง ในโรงงานอุตสาหกรรมก็เช่นกัน บางธุรกิจก็ไม่รับผิดชอบต่อสังคม ปล่อยมลพิษสู่สิ่งแวดล้อม ยิ่งไปกว่านั้นกฎหมายนั้นได้กำหนดให้การปล่อยน้ำมันจากโรงงานนั้นจะต้องไม่เกิน 10 PPM หากไม่ติดตั้ง เครื่องดักแยกน้ำมันออกจากลมในระบบ เพื่อแยกน้ำมันออกจากน้ำ ค่าน้ำมันที่ปล่อยออกมาก็อาจเกินตามที่กฏหมายกำหนดและส่งผลเสียต่อสภาพแวดล้อมได้ นั่นจึงเป็นเหตุผลที่สองว่าทำไมต้องใช้ เครื่องแยกน้ำหรือน้ำมัน (Oil-water separators) ในระบบอัดอากาศ เนื่องจากประเทศส่วนใหญ่ มีกฎหมายบังคับใช้อย่างเข้มงวดในเรื่องของการบำบัดของเสียก่อนปล่อยลงสู่สิ่งแวดล้อม หากไม่ปฏิบัติตามจะได้รับโทษตามกฎหมาย ยกตัวอย่างเช่น ในประเทศอังกฤษ หากโรงงานอุตสาหกรรมใดไม่ปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยมลพิษทางสิ่งแวดล้อม อาจมีโทษถูกปรับสูงถึง 20,000 ปอนด์หรือเป็นเงินราวเก้าแสนบาทเลยทีเดียว สำหรับพระราชบัญญัติทรัพยากรน้ำในประเทศเยอรมนีกำหนดว่าสามารถปล่อยน้ำเสียได้ก็ต่อปริมาณสารก่อมลพิษในน้ำเสียมีปริมาณต่ำสุดเท่าที่จะบำบัดได้แล้ว ในปัจจุบันกฎหมายกำหนดให้มีปริมาณน้ำมันตกค้างอยู่ในน้ำทิ้งไม่เกิน 20 มก./ลิตร แต่บางหน่วยงานอาจเข้มงวดกว่านี้ ซึ่งข้อกำหนดเหล่านี้สามารถเพิ่มขึ้นหรือลดลงได้ตลอดเวลา นั่นจึงเป็นสาเหตุที่ผู้ผลิตควรมีถึงแม้จะมีกฎหมายบังคับว่าผู้ใช้รถทุกคนต้องคาดเข็มขัดนิรภัยขณะเดินทางก็ตาม แต่ก็ยังมีผู้ใช้รถบางคนที่ไม่ได้ปฏิบัติตาม นั่นถือเป็นความรับผิดชอบส่วนบุคคล เพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้รถเอง ในโรงงานอุตสาหกรรมก็เช่นกัน บางธุรกิจก็ไม่รับผิดชอบต่อสังคม ปล่อยมลพิษสู่สิ่งแวดล้อม ยิ่งไปกว่านั้นกฎหมายนั้นได้กำหนดให้การปล่อยน้ำมันจากโรงงานนั้นจะต้องไม่เกิน 10 PPM หากไม่ติดตั้ง เครื่องดักแยกน้ำมันออกจากลมในระบบ เพื่อแยกน้ำมันออกจากน้ำ ค่าน้ำมันที่ปล่อยออกมาก็อาจเกินตามที่กฏหมายกำหนดและส่งผลเสียต่อสภาพแวดล้อมได้ นั่นจึงเป็นเหตุผลที่สองว่าทำไมต้องใช้ถึงแม้จะมีกฎหมายบังคับว่าผู้ใช้รถทุกคนต้องคาดเข็มขัดนิรภัยขณะเดินทางก็ตาม แต่ก็ยังมีผู้ใช้รถบางคนที่ไม่ได้ปฏิบัติตาม นั่นถือเป็นความรับผิดชอบส่วนบุคคล เพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้รถเอง ในโรงงานอุตสาหกรรมก็เช่นกัน บางธุรกิจก็ไม่รับผิดชอบต่อสังคม ปล่อยมลพิษสู่สิ่งแวดล้อม ยิ่งไปกว่านั้นกฎหมายนั้นได้กำหนดให้การปล่อยน้ำมันจากโรงงานนั้นจะต้องไม่เกิน 10 PPM หากไม่ติดตั้ง เครื่องดักแยกน้ำมันออกจากลมในระบบ เพื่อแยกน้ำมันออกจากน้ำ ค่าน้ำมันที่ปล่อยออกมาก็อาจเกินตามที่กฏหมายกำหนดและส่งผลเสียต่อสภาพแวดล้อมได้ นั่นจึงเป็นเหตุผลที่สองว่าทำไมต้องใช้ถึงแม้จะมีกฎหมายบังคับว่าผู้ใช้รถทุกคนต้องคาดเข็มขัดนิรภัยขณะเดินทางก็ตาม แต่ก็ยังมีผู้ใช้รถบางคนที่ไม่ได้ปฏิบัติตาม นั่นถือเป็นความรับผิดชอบส่วนบุคคล เพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้รถเอง ในโรงงานอุตสาหกรรมก็เช่นกัน บางธุรกิจก็ไม่รับผิดชอบต่อสังคม ปล่อยมลพิษสู่สิ่งแวดล้อม ยิ่งไปกว่านั้นกฎหมายนั้นได้กำหนดให้การปล่อยน้ำมันจากโรงงานนั้นจะต้องไม่เกิน 10 PPM หากไม่ติดตั้ง เครื่องดักแยกน้ำมันออกจากลมในระบบ เพื่อแยกน้ำมันออกจากน้ำ ค่าน้ำมันที่ปล่อยออกมาก็อาจเกินตามที่กฏหมายกำหนดและส่งผลเสียต่อสภาพแวดล้อมได้ นั่นจึงเป็นเหตุผลที่สองว่าทำไมต้องใช้ เครื่องแยกน้ำหรือน้ำมัน (Oil-water separators) ในระบบอัดอากาศ เนื่องจากประเทศส่วนใหญ่ มีกฎหมายบังคับใช้อย่างเข้มงวดในเรื่องของการบำบัดของเสียก่อนปล่อยลงสู่สิ่งแวดล้อม หากไม่ปฏิบัติตามจะได้รับโทษตามกฎหมาย ยกตัวอย่างเช่น ในประเทศอังกฤษ หากโรงงานอุตสาหกรรมใดไม่ปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยมลพิษทางสิ่งแวดล้อม อาจมีโทษถูกปรับสูงถึง 20,000 ปอนด์หรือเป็นเงินราวเก้าแสนบาทเลยทีเดียว สำหรับพระราชบัญญัติทรัพยากรน้ำในประเทศเยอรมนีกำหนดว่าสามารถปล่อยน้ำเสียได้ก็ต่อปริมาณสารก่อมลพิษในน้ำเสียมีปริมาณต่ำสุดเท่าที่จะบำบัดได้แล้ว ในปัจจุบันกฎหมายกำหนดให้มีปริมาณน้ำมันตกค้างอยู่ในน้ำทิ้งไม่เกิน 20 มก./ลิตร แต่บางหน่วยงานอาจเข้มงวดกว่านี้ ซึ่งข้อกำหนดเหล่านี้สามารถเพิ่มขึ้นหรือลดลงได้ตลอดเวลา นั่นจึงเป็นสาเหตุที่ผู้ผลิตควรมีถึงแม้จะมีกฎหมายบังคับว่าผู้ใช้รถทุกคนต้องคาดเข็มขัดนิรภัยขณะเดินทางก็ตาม แต่ก็ยังมีผู้ใช้รถบางคนที่ไม่ได้ปฏิบัติตาม นั่นถือเป็นความรับผิดชอบส่วนบุคคล เพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้รถเอง ในโรงงานอุตสาหกรรมก็เช่นกัน บางธุรกิจก็ไม่รับผิดชอบต่อสังคม ปล่อยมลพิษสู่สิ่งแวดล้อม ยิ่งไปกว่านั้นกฎหมายนั้นได้กำหนดให้การปล่อยน้ำมันจากโรงงานนั้นจะต้องไม่เกิน 10 PPM หากไม่ติดตั้ง เครื่องดักแยกน้ำมันออกจากลมในระบบ เพื่อแยกน้ำมันออกจากน้ำ ค่าน้ำมันที่ปล่อยออกมาก็อาจเกินตามที่กฏหมายกำหนดและส่งผลเสียต่อสภาพแวดล้อมได้ นั่นจึงเป็นเหตุผลที่สองว่าทำไมต้องใช้ เครื่องแยกน้ำหรือน้ำมัน (Oil-water separators) ในระบบอัดอากาศ เนื่องจากประเทศส่วนใหญ่ มีกฎหมายบังคับใช้อย่างเข้มงวดในเรื่องของการบำบัดของเสียก่อนปล่อยลงสู่สิ่งแวดล้อม หากไม่ปฏิบัติตามจะได้รับโทษตามกฎหมาย ยกตัวอย่างเช่น ในประเทศอังกฤษ หากโรงงานอุตสาหกรรมใดไม่ปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยมลพิษทางสิ่งแวดล้อม อาจมีโทษถูกปรับสูงถึง 20,000 ปอนด์หรือเป็นเงินราวเก้าแสนบาทเลยทีเดียว สำหรับพระราชบัญญัติทรัพยากรน้ำในประเทศเยอรมนีกำหนดว่าสามารถปล่อยน้ำเสียได้ก็ต่อปริมาณสารก่อมลพิษในน้ำเสียมีปริมาณต่ำสุดเท่าที่จะบำบัดได้แล้ว ในปัจจุบันกฎหมายกำหนดให้มีปริมาณน้ำมันตกค้างอยู่ในน้ำทิ้งไม่เกิน 20 มก./ลิตร แต่บางหน่วยงานอาจเข้มงวดกว่านี้ ซึ่งข้อกำหนดเหล่านี้สามารถเพิ่มขึ้นหรือลดลงได้ตลอดเวลา นั่นจึงเป็นสาเหตุที่ผู้ผลิตควรมีถึงแม้จะมีกฎหมายบังคับว่าผู้ใช้รถทุกคนต้องคาดเข็มขัดนิรภัยขณะเดินทางก็ตาม แต่ก็ยังมีผู้ใช้รถบางคนที่ไม่ได้ปฏิบัติตาม นั่นถือเป็นความรับผิดชอบส่วนบุคคล เพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้รถเอง ในโรงงานอุตสาหกรรมก็เช่นกัน บางธุรกิจก็ไม่รับผิดชอบต่อสังคม ปล่อยมลพิษสู่สิ่งแวดล้อม ยิ่งไปกว่านั้นกฎหมายนั้นได้กำหนดให้การปล่อยน้ำมันจากโรงงานนั้นจะต้องไม่เกิน 10 PPM หากไม่ติดตั้ง เครื่องดักแยกน้ำมันออกจากลมในระบบ เพื่อแยกน้ำมันออกจากน้ำ ค่าน้ำมันที่ปล่อยออกมาก็อาจเกินตามที่กฏหมายกำหนดและส่งผลเสียต่อสภาพแวดล้อมได้ นั่นจึงเป็นเหตุผลที่สองว่าทำไมต้องใช้ถึงแม้จะมีกฎหมายบังคับว่าผู้ใช้รถทุกคนต้องคาดเข็มขัดนิรภัยขณะเดินทางก็ตาม แต่ก็ยังมีผู้ใช้รถบางคนที่ไม่ได้ปฏิบัติตาม นั่นถือเป็นความรับผิดชอบส่วนบุคคล เพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้รถเอง ในโรงงานอุตสาหกรรมก็เช่นกัน บางธุรกิจก็ไม่รับผิดชอบต่อสังคม ปล่อยมลพิษสู่สิ่งแวดล้อม ยิ่งไปกว่านั้นกฎหมายนั้นได้กำหนดให้การปล่อยน้ำมันจากโรงงานนั้นจะต้องไม่เกิน 10 PPM หากไม่ติดตั้ง เครื่องดักแยกน้ำมันออกจากลมในระบบ เพื่อแยกน้ำมันออกจากน้ำ ค่าน้ำมันที่ปล่อยออกมาก็อาจเกินตามที่กฏหมายกำหนดและส่งผลเสียต่อสภาพแวดล้อมได้ นั่นจึงเป็นเหตุผลที่สองว่าทำไมต้องใช้ เครื่องแยกน้ำหรือน้ำมัน (Oil-water separators) ในระบบอัดอากาศ เนื่องจากประเทศส่วนใหญ่ มีกฎหมายบังคับใช้อย่างเข้มงวดในเรื่องของการบำบัดของเสียก่อนปล่อยลงสู่สิ่งแวดล้อม หากไม่ปฏิบัติตามจะได้รับโทษตามกฎหมาย ยกตัวอย่างเช่น ในประเทศอังกฤษ หากโรงงานอุตสาหกรรมใดไม่ปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยมลพิษทางสิ่งแวดล้อม อาจมีโทษถูกปรับสูงถึง 20,000 ปอนด์หรือเป็นเงินราวเก้าแสนบาทเลยทีเดียว สำหรับพระราชบัญญัติทรัพยากรน้ำในประเทศเยอรมนีกำหนดว่าสามารถปล่อยน้ำเสียได้ก็ต่อปริมาณสารก่อมลพิษในน้ำเสียมีปริมาณต่ำสุดเท่าที่จะบำบัดได้แล้ว ในปัจจุบันกฎหมายกำหนดให้มีปริมาณน้ำมันตกค้างอยู่ในน้ำทิ้งไม่เกิน 20 มก./ลิตร แต่บางหน่วยงานอาจเข้มงวดกว่านี้ ซึ่งข้อกำหนดเหล่านี้สามารถเพิ่มขึ้นหรือลดลงได้ตลอดเวลา นั่นจึงเป็นสาเหตุที่ผู้ผลิตควรมีถึงแม้จะมีกฎหมายบังคับว่าผู้ใช้รถทุกคนต้องคาดเข็มขัดนิรภัยขณะเดินทางก็ตาม แต่ก็ยังมีผู้ใช้รถบางคนที่ไม่ได้ปฏิบัติตาม นั่นถือเป็นความรับผิดชอบส่วนบุคคล เพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้รถเอง ในโรงงานอุตสาหกรรมก็เช่นกัน บางธุรกิจก็ไม่รับผิดชอบต่อสังคม ปล่อยมลพิษสู่สิ่งแวดล้อม ยิ่งไปกว่านั้นกฎหมายนั้นได้กำหนดให้การปล่อยน้ำมันจากโรงงานนั้นจะต้องไม่เกิน 10 PPM หากไม่ติดตั้ง เครื่องดักแยกน้ำมันออกจากลมในระบบ เพื่อแยกน้ำมันออกจากน้ำ ค่าน้ำมันที่ปล่อยออกมาก็อาจเกินตามที่กฏหมายกำหนดและส่งผลเสียต่อสภาพแวดล้อมได้ นั่นจึงเป็นเหตุผลที่สองว่าทำไมต้องใช้ เครื่องแยกน้ำหรือน้ำมัน (Oil-water separators) ในระบบอัดอากาศ เนื่องจากประเทศส่วนใหญ่ มีกฎหมายบังคับใช้อย่างเข้มงวดในเรื่องของการบำบัดของเสียก่อนปล่อยลงสู่สิ่งแวดล้อม หากไม่ปฏิบัติตามจะได้รับโทษตามกฎหมาย ยกตัวอย่างเช่น ในประเทศอังกฤษ หากโรงงานอุตสาหกรรมใดไม่ปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยมลพิษทางสิ่งแวดล้อม อาจมีโทษถูกปรับสูงถึง 20,000 ปอนด์หรือเป็นเงินราวเก้าแสนบาทเลยทีเดียว สำหรับพระราชบัญญัติทรัพยากรน้ำในประเทศเยอรมนีกำหนดว่าสามารถปล่อยน้ำเสียได้ก็ต่อปริมาณสารก่อมลพิษในน้ำเสียมีปริมาณต่ำสุดเท่าที่จะบำบัดได้แล้ว ในปัจจุบันกฎหมายกำหนดให้มีปริมาณน้ำมันตกค้างอยู่ในน้ำทิ้งไม่เกิน 20 มก./ลิตร แต่บางหน่วยงานอาจเข้มงวดกว่านี้ ซึ่งข้อกำหนดเหล่านี้สามารถเพิ่มขึ้นหรือลดลงได้ตลอดเวลา นั่นจึงเป็นสาเหตุที่ผู้ผลิตควรมี เครื่องแยกน้ำมันและน้ำรุ่น OSC (OSC oil-water separator) จาก Atlas Copco ที่จะทำให้ธุรกิจของคุณปลอดภัย เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม หากถามว่าเครื่องแยกน้ำมันและน้ำรุ่น OSC (OSC oil-water separator) ของเราดีอย่างไร เครื่องแยกน้ำมันและน้ำรุ่น OSC ของเราใช้ระบบคาร์ทริดจ์ (cartridge ) แบบใหม่ที่ทำให้ดูแลรักษาง่ายกว่ารุ่นเก่าๆ มากและไม่หกเลอะเทอะเมื่อเทียบกับเครื่องแยกน้ำมันและน้ำแบบทั่วไป