เหตุใดอัตราการไหลของโบลเวอร์ blower flow rate ที่เหมาะสมกับการเติมอากาศจึงมีความสำคัญ

ก่อนอื่น คุณต้องแน่ใจว่าคุณได้กำหนด อัตราการไหลและแรงดันอากาศที่เหมาะที่สุด สำหรับกระบวนการเติมอากาศของคุณ การทำให้เป็นไปตามข้อกำหนดเหล่านั้นจะช่วยให้คุณมั่นใจได้ว่ามี ความสามารถในการเติมอากาศ ที่เพียงพอในช่วงเวลาที่มีความต้องการสูงสุด และมีกระบวนการที่ราบรื่นและมีประสิทธิภาพระหว่างชั่วโมงการทำงานปกติ

เมื่อคุณได้รับการคำนวณอัตราการไหลของอากาศของโบลเวอร์ที่ไม่ถูกต้อง และจัดหาอุปกรณ์ขนาดเล็กเกินไปมาใช้ โรงงานของคุณจะไม่สามารถบรรลุประสิทธิภาพการบำบัดตามที่ออกแบบได้ ซึ่งหมายความว่าคุณจะบำบัดน้ำได้น้อยลง หรือที่แย่กว่านั้นคือคุณได้น้ำเสียที่ไม่ตรงตามมาตรฐานที่กำหนด ในขณะที่การเลือกใช้โบลเวอร์ที่มีขนาดใหญ่เกินไปจะทำให้สิ้นเปลืองพลังงาน เพราะเครื่องจะต้องเริ่มและหยุดบ่อยๆ หรือทำงานในสภาวะที่มีการระบายแรงดัน 

หลังจากที่คุณกำหนดปริมาณการไหลสำหรับการใช้งานด้านการเติมอากาศของคุณแล้ว คุณจะสามารถเริ่มเปรียบเทียบโซลูชั่นต่างๆ นี่คือจุดที่อาจทำได้ยาก ผู้ให้บริการโซลูชั่นโบลเวอร์ blower แต่ละรายจะใช้ วิธีรายงานปริมาณการไหลและแรงดันที่แตกต่างกัน เนื่องจากอัตราการไหลของอากาศเป็นปัจจัยสำคัญที่ควรพิจารณาเมื่อเลือกโซลูชั่นที่เหมาะสม คุณจึงควรทำการ เปรียบเทียบที่สมเหตุสมผล 

ตัวอย่าง เช่น คุณต้องหาว่าคุณกำลังรับมือกับ ปริมาณการไหลที่ทางเข้า หรือปริมาณการไหลที่ส่งออก นอกจากนี้ ยังมีเครื่องอีกจำนวนมากเพื่อระบุข้อกำหนดการไหล ซึ่งอาจทำให้การเปรียบเทียบเป็นเรื่องซับซ้อน 

บางเครื่องจะแสดง ปริมาตรการไหล (ปริมาตรของของเหลวที่ไหลต่อหน่วยเวลา) และเครื่องอื่นๆ เป็น มวลการไหล (มวลของของเหลวที่ไหลผ่านต่อหน่วยเวลา) เครื่องแรกจะวัดหน่วยต่างๆ เช่น ลูกบาศก์ฟุตต่อนาที (cfm), ลูกบาศก์เมตรต่อนาที (m3/นาที) หรือลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง (m3/ ชม.) และเครื่องที่สองจะวัดใน หน่วย Nm³/ชม. หรือ kg/ชม. 

บางเครื่องจะขึ้นอยู่กับ สภาพของทางเข้า และเครื่องอื่นๆ ขึ้นอยู่กับ เงื่อนไขการอ้างอิงที่กำหนดไว้ล่วงหน้า ตัวอย่าง เช่น เงื่อนไขอ้างอิงมาตรฐานของคุณคือ Nm³/ชม. ที่ 0°C หรือ 20°C หรือไม่ ซึ่งสามารถสร้าง ความแตกต่างที่เห็นได้ชัด (ประมาณ 8%) ในแง่ของปริมาณการไหลและกำลัง  

จากนั้นจะต้องพิจารณา การสูญเสียตัวกรองทางเข้า โบลเวอร์แบบ Plug & Play บางรุ่นมาพร้อมกับตัวกรองในตัว ในขณะที่รุ่นอื่นต้องติดตั้งตัวกรองที่ไซต์ ซึ่งนอกจากการเลือกตัวกรองแล้ว ยังมีผลต่อการลดลงของแรงดัน ซึ่งต้องคำนึงถึงการคำนวณอัตราการไหลของอากาศของโบลเวอร์ blower air flow rate calculation ด้วย  

อีกปัจจัยหนึ่งคือ ความคลาดเคลื่อนของการไหล ซึ่งหมายถึงช่วงของการไหลที่โบลเวอร์ควรสามารถส่งมอบ โดยปกติแล้วเท่ากับ 4% ตัวอย่าง เช่น ในการไหล 1000 m3/h ช่วงของปริมาณการไหลจริงอาจอยู่ระหว่าง 960-1040 m3/h อย่างไรก็ตาม หากการไหลของคุณมีความสำคัญมาก ความคลาดเคลื่อนควรจะอยู่ที่ 0% ซึ่งหมายความว่าโบลเวอร์จะส่งปริมาณการไหลอย่างน้อย 100% ของพิกัดที่ออกแบบ 

อย่างที่คุณเห็นแล้ว สามารถรายงานข้อมูลปริมาณการไหลได้หลายวิธี สิ่งสำคัญที่สุดที่ต้องทำคือ ต้องทำการเปรียบเทียบที่สมเหตุสมผล

อย่างไรก็ตาม ในการเปลี่ยนโบลเวอร์นั้น ถ้าคุณเลือกนำเครื่องแบบเดิมมาเปลี่ยน จะทำให้คุณพลาดโอกาสที่จะประหยัด คุณควร กำหนดความจุที่คุณต้องการใหม่ ก่อนจะตัดสินใจเลือกโบลเวอร์ชนิดใดชนิดหนึ่งโดยเฉพาะ 

• ฉันต้องใช้อัตราการไหลและแรงดันอากาศเท่าใดสำหรับกระบวนการของฉัน
• รายงานอัตราการไหลอย่างไร
  •  เป็นปริมาณการไหลที่ทางเข้าหรือปริมาณการไหลที่ส่งออก 
  • จะรายงานเป็นหน่วยใด 
  • เป็นเงื่อนไขของทางเข้าหรือเงื่อนไขการอ้างอิงที่กำหนดไว้ล่วงหน้า 
  • มีแรงดันลดที่ต้องคำนึงถึงหรือไม่
  • ความคลาดเคลื่อนของการไหลสำหรับกระบวนการของฉันคืออะไร